วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

REVIEW Nikon AF-S DX 18-105 f/3.5-5.6G ED VR

Lens ตัวนี้ผมคงจะไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ เพราะเป็นLens ที่แทบทุกคนที่ใช้ D7000  ต้องมี นั้นก็คือ
 Lens Nikon AF-S DX 18-105 f/3.5-5.6G ED VR หลายๆคนก็ต้องเคยใช้ คุณภาพของมันเกินตัวจริงๆ

1. วัสดุและน้ำหนัก
ตัวนี้เป็นตัวที่ทำมาจากพาสติก น้ำหนักพอดีมือเหมาะมือดีครับไม่หนักไปไม่เบาไป 


2. ช่วงระยะของLens 18 -105 เป็นLens ที่ครอบคลุม ได้ทั่งวายและก็เทเล 




3.ความคม
Lensตัวนี้ถือว่าคมอยุ๋ในระดับหนึ่งแต่ไม่มาก 


4.ปัญหาขอบม่วง 
Lens ตัวนี้มีแน่นอนอยู่แล้วแต่ก็ยังอยู่ในระกับพอรับได้






5.วิกเนตต์ มีครับตั่งแต่f3.5  ก็เริ่มมีแล้วครับ


6.เลนตัวนี้เป็นเลน์ที่ซูมออกจากกระบอกเลนส์นะครับใช้ไปใช้มาก็จะทำให้หลวม 


สรุป 
Nikon AF-S DX 18-105 f/3.5-5.6G ED VR  เป็นเลนส์ที่คุณภาพเหมาะกับราคา ที่คุณจ่ายไป ถ้ายได้ครอบคลุมครับ ถ้าใครสนใจอยากได้ทั่งวายทั่งเทเลอยู่ในกระบอกเดียวกัน ผมแนะนำตัวนี้ครับ 


NIKKOR AF-S 14-24mm f/2.8G ED

   วันนี้ผมจะมาแนะนำเลนส์ วาย หรือจะเรียกว่า อุลตร้าวาย และ เลนส์ตัวนี้เป็น1ใน เลนส์เทพของ NIKON นั้นก็คือ NIKKOR AF-S 14-24mm f/2.8G ED 



1.วัสดุตัวนี้ต้องบอกเลยว่า เหมือนกับ 24 -70 NANO ครับ หนัก แข็งแรง แต่ชิ้นเลนข้างหน้ามันนูนออกมาต้องระวัง ให้ดี 

D800 + 14-24 F 2.8 : F11 S1/400


2. การใช้งาน ผมคิดว่า เลนส์ตัวนี้เหมาะมากถ้าใครอยากได้มุมแบบกว้างที่14มันสวยมาก และกว้างจริงๆ ถ้าในระยะ24ก็ถือว่าครอบคลุม

D800 + 14-24 F 2.8 : F11 S1/125 



3.ความคมต้องยกให้จริง เพื่อนๆถ้าใครที่ได้ลองใช้เลนส์ตัวนี้บอกเลยว่ามันคมสุดๆ แบบเลนส์วายตัวอื่นสู้ไม่ได้เลย

D800 + 14-24 F 2.8 : F11 S1/100



4.ปัญหาขอบม่วง เลนส์ตัวนี้บอกเลยว่าน้อยมากตั่งแต่ผมได้ลองถ่ายและใช้มาแทบไม่มีผลกับผมเลย

D800 + 14-24 F 2.8 : F6.5 S1/125


5.แฟร์ ตัวนี้ค่อนข้างมีเยอะครับเพราะหน้าเลนส์ที่นูนออกมาทำให้แสงตกกระทบได้ง่าย แต่มันเป็นเอกลักษณ์ของเลนส์ตัวนี้เลยก็ว่าได้
D800 + 14-24 F 2.8 : F11 S1/50


6.วิกเนตต์  ตัวนี้มีเยอะเลยครับ เพราะมันเป็นเลนส์วาย แต่เราสามารถปรับได้

7.เรื่องความบิดเบือนของเลนส์ ตัวนี้มีเยอะเหมือนกันครับเพราะมันเป็นวาย ช่วงตรงขอบ แต่มันก็ไม่มากครับ


สรุป
เลนส์ตัวนี้ ผมว่าใครที่มีเงินและต้องการวายควรซื้อเก็บไว้นะครับเพราะซื้อมาไม่ผิดหวังจริงๆ
แต่ข้อเสียก็มีนะครับ ด้วยลักษณะที่มันโค้ง จะดูแลรักษายาก  ต้องคอยระวังด้วยครับเวลาใช้ ใช้เสร็จต้องปิดผาเลนส์ตลอด เพื่อป้องกัน

REVIEW TAMRON 70-200 F2.8 VC

วัสดีครับ   วันนี้มาเขียนรีวิว สบายๆกับเลนส์ที่ถูกถามกันมากที่สุดตัวหนึ่ง มันคือ TAMRON 70-200 F 2.8 VC
จุดโดดเด่นหลักๆ
1. มีกันสั่นมาให้ และเคลมไว้ 4 สต็อป
2. มอเตอร์ใหม่ ไฉไลกว่าเก่า
3. ขนาดเล็กเมื่อเทียบในคลาสเดียวกัน
4. ชิ้นเลนส์ใหม่ 5. ปุ่มปรับ AF-MF ใหม่




ปุ่มที่ว่าครับ / ปรับโหมดข้ามไปข้ามมาระหว่าง auto / manual เป็นปกติ เสียที … รุ่นเก่าใช้วิธี " เลื่อนทั้งกระบอก !!! "

การเก็บงาน และ วัสดุการผลิต ดีขึ้นกว่ารุ่นเก่าและ คุณภาพการเก็บงานดีกว่า 70-300 มากกกกกก


1. ช่วงการใช้งาน 70-200 แทบจะเป็นช่วงมาตรฐานที่ทุกคนรู้จักกันดีอยู่แล้วนะครับ ถ้าเป็นตัวคูณก็ ประมาณ 105-300 มม องศารับภาพที่ 22/8 ที่ 70/200 ครับ ถือเป็น มุมปกติ และใช้งานง่าย เท่าที่เลนส์ช่วงนี้นิยม ใบนี้ที่ 70 มม ครับ

ซูมไปข้างล่างที่ 200 มม ครับ ต้องออกปากชมว่า มอเตอร์ตัวใหม่ ดีขึ้นกว่าเดิมมากๆ มากๆ เน้นว่า มากๆ นะครับ ของเดิมนี่ กินเวลาราวๆ ครึ่งวินาที … กว่าจะคอนเฟิร์ม ตัวนี้ เร็วพอๆกับเลนส์ค่ายครับ เร็วจนเป็นที่น่าพอใจ ใช้คำแบบนี้จะถูกกว่าครับ



นอกจากเรื่องเร็วแล้วก็ต้องบอกว่า เงียบ จนน่าพอใจด้วยครับ จริงๆต้องบอกว่า ตัวเก่า ทำไว้ไม่ประทับจิตนักครับ ตัวใหม่ทำได้สูสีเลนส์อย่าง AF-S 70-200 VR II เลยครับ



แต่สิ่งหนึ่งที่ยังหอบหืดนิดๆ คือ โกสต์และแฟลร์ ที่ย้อนตรงๆไม่ค่อยจะเป็น แต่จะมาตอนเอาแหล่งกำเนิดไว้ขอบๆภาพเช่นในภาพครับ 

หลบได้ หากจะหลบ ไม่ได้โผล่มาง่ายหรือหลบไม่ได้เลย … แต่แทมรอนเองก็มีปัญหาเรื่องนี้มานาน / มีโอกาสเกิดง่ายมากกว่าเลนส์ค่ายครับ
โฟกัสในที่แสงน้อย 

ทำได้ผ่านฉลุย อันนี้บอดี้อาจจะมีส่วนช่วยด้วยประการหนึ่ง แต่เลนส์ที่เร็วขึ้นมาก ก็ทำให้ทำงานเข้ากับบอดี้รุ่นใหม่ๆได้ดี ไม่มีบกพร่อง ไม่ว่าจะเป็น D4 / D610 / D800
ข้อดี 
1. เร็วขึ้น ตัวเก่าไปไกลๆเลย เร็วจนเป็นที่น่าพอใจ 
2. คมขึ้น ไม่มีอาการฟุ้งให้เห็น ใช้ได้ตั้งแต่ 2.8 
3. เงียบมากกก
4. กันสั่นทำงานได้น่าประทับใจเหมือน 70-300 VC แต่สั่นในช่องมองน้อยกว่ามากและกินแบตน้อย 
5. วัสดุ การผลิต น่าประทับใจ 
6. ราคาสมเหตุสมผล ค่อนไปทางถูก 
7. มีคอลลาร์มาให้ ฮูดสวย และหน้าตาดีตลอดทั้งตัวเลนส์ 

ข้อเสีย 

1. น้ำหนักไม่ได้เบามากนัก 1.47 กิโล (ถือว่า หนัก) 
2. แฟลร์ โกสต์ มีบ้างตามประสา 
3. ขอบม่วง มีมาเล็กน้อย แต่ถือว่าน้อยโคตร 
4. ราคาขายต่อ / แต่ดูแล้วตัวนี้ถือว่าโอเค



REVIEW CANON EF 135 f2 L

วันนี้เราจะมาพูดถึง เลนที่เขาว่ากันว่า เป็นเทพ Portrait ของค่าย หนอน ก็ว่าได้ จะเป็นไรไปไมได้ก็คือ CANON EF 135 f2 L

1.โคงสร้าง วัสดุ
โครงสร้างของตัวเลนส์ค่อนข้างจะสะดวกในการตับขนาดไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป ทำให้น้ำหนักของตัวเลนส์นั้นเบากว่าถ้าเปรียบเทียบกับ70-200 จึงทำให้สะดวกในการพกพา ส่วนวัสดุที่ใช้นั้น เป็นผิวเลนส์สีดำ แบบขรุขะ กันระอองน้ำ และกันลื่นได้ดี



2.การใช้งาน ในระยะ135
ถือว่าเป็นเลนส์เทเล ค่อนข้างจะใช้ยากเพราะเนื่องจากต้องถอยห่างจากแบบ ถึง0.9-1.6เมตร การถ่ายภาพโดยที่จะใช้เลนส์นี้นั้นจำเป็นต้องมีพื้นที่พอสมควร



3.ความเบลอ ความเบลอของฉากหลัง ให้ความรู้สึกที่ละลายสวยกว่าถ้าเปรียบเทียบกับ85mm f1.2 เนื่องด้วยระยะของ135 ทำให้ภาพเบลอได้มากกว่าและทำให้วัสถุในภาพนั้นดูเด่นขึ้นมาด้วย


4.ปัญหาขอบม่วง
ขอบม่วงแถบไม่เจอเลยก็ว่าได้ เพราะระยะของเลนส์นี้เป็นตัวเทเล จึงทำให้ไม่เกิดปัญหาขอบม่วง


5.ย้อนแสง
ย้อนแสงถือว่าทำได้ดี สำหรับเลนส์ตัวนี้ ให้ภาพได้ที่แสงแฟร์สวยงามฟุ่ง ที่สำคัญภาพยังคมชัดเหมือนเดิม

6.ความเบลอ
ความเบลอของฉากหลัง ให้ความรู้สึกที่ละลายสวยกว่าถ้าเปรียบเทียบกับ85mm f1.2 เนื่องด้วยระยะของ135 ทำให้ภาพเบลอได้มากกว่าและทำให้วัสถุในภาพนั้นดูเด่นขึ้นมาด้วย


7.วิกเนตต์
ไม่มีปัญหาเรื่องวิกเนตต์ ถึงแม้ว่าเราจะปิดโหมดแก้แสงในขอบภาพ ก็ไม่เกิดวิกเนตต์ขึ้นในภาพ

8.โบเก้
โบเก้สำหรับ135นั้น ถือว่าสวยงาม สำหรับระยะ135และF-stop 2 สามารถละลายให้ฉากหลังหายไปเลยหรือจะเลือกเก้บไว้ลางๆก็ได้ โบเก้ไฟกลางคืนค่อนข้างดาวใหญ่พอสมควร โดยรวมถือว่าโอเค




9.ความคม
ความคมชัด เริ่มตั้งแต่F-stop2 ขึ้นไป ถือว่าทำได้ดีเยี่ยม สำหรับเลนส์ตัวนี้ คมบาดใจกันเลยทีเดียว


10.สี สีสันที่ได้จากเลนส์ตัวนี้ ตรงตามความจริงมาก เก้บสีได้ครบไม่มีปัญหาในเรื่องของสีเพี้ยน


สรุป canon 135 f/02 l usm องค์ประกอบโดยรวมที่บรรยายมา ถือว่าทำได้ดีเยี่ยม แต่ในเรื่องของพื้นที่ในการถ่ายรูป ซึ่งต้องใช้ระยะห่างพอสมควร ซึ่งต้องทำใจ ถ้าถือใช้นานๆ ก็จะชินไปเอง ปัญหาของเลนส์นี่ถือว่าน้อยมาก หรือแทบไม่มีเลย เป็นเลนส์ที่ช่างภาพหลายๆคนเมื่อได้ถือแล้ว ทำให้ไม่อยากว่างเลยทีเดียว อ่านแต่รีวิวมันยังไม่พอคุณต้องลองไปจับมันด้วยมือของคุณเอง


REVIEW NIKKOR 50 1.8 G

พบกันอีกครั่งนะครับวันี้ผมจะมา REVIEW  Lens ราคาเบา น้ำหนักเบา ที่มันเกินคุ้ม นะครับ

NIKKOR 50 1.8 G lens ตัวนี้ซื้อมากคุ้มจริงๆ fix 50 เป็นตัวที่ใครๆก็ต่างจะต้องมีครับไม่ว่ายันรุ่นพ่อรุ่นปู่ ถ้าใครใช้กล้อง NIKONก็ต้องมีไว้ครอบครอง



1.โครงสร้างและวัสดุ
 ฟิก50 F1.8 ตัวนี้อยากจะบอกว่าน้ำหนักเบามาก แถมหน้าตายังไม่ธรรมดา ผมว่าหล่อเลยหละ ทำจากพลาสติก 

D800 + 50 F1.8 G  : F. 1.8  S1/125

2.การใช้งานในระยะ 50 มม
เป็นระยะนอมอลในสายตาคนนะครับ สำหรับผมรู้สึกว่า ถ่ายคนที่อยู่ใกล้ๆ ประมาณ ครึ่งตัว โอเคเลย ครับ ถ้าอยากได้เต็มก็ก็สวยเหมือนกัน เหมาะทั่ง Portrait และ land 

D800 + 50 F1.8 : F 2 S 1/800

D800 + 50 F1.8 : F 5 S 1/8

3. ความเบลอของ F1.8
เบลอสวยครับ ผมรู้สึกว่ามันเกิน คุ้มจริงๆต้องดูรูปละกัน

D800 + 50 F1.8 : F 1.8 S 1/400

4.ปัญหาขอบม่วง
ตัวนี้ถือว่าเยอะนะครับ เยอะใช้ได้เลย แต่เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงเรื่องโปรแกรมมันแก้ได้อยู่แล้วครับ 


7. โบเก้
ตัวนี้ดีใช้ได้เลยสมราคาครับ โบเก้ใช้ให้ตัวแบบอยู่ห่างจากฉากหลัง 5เมตร กำลังดีครับ 

D800 + 50 F1.8 : F 2.5 S 1/160

8.ความเร็วในการโฟกัส
ตัวนี้ผมต้องยกนิ้วให้เลย ผมว่ามันสุดยอด เลยครับ เร็วกว่าตัวเก่า เยอะเลย

D7000 + 50 F1.8 : F 11 S 1/1250

9.ความคม
ความคมผมว่าคมมากครับคมตั่งแต่1.8 รู็สึกได้ว่ามันบาดตาเลย 55555

D7000 + 50 F1.8 : F 1.8 S 1/160

สรุปผล

ข้อดี

1. เบามาก แทบไม่มีน้ำหนัก เมื่อเมาท์กับกล้องอย่าง 700,7000 น่าจะเหมาะกับ D5100 ชนิดหาตัวเปรียบยากมาก

2. คมตั้งแต่ 1.8 อาการฟุ้งหายเกลี้ยง มีบ้างหากย้อนแสงจัดๆ แต่ถือว่า ดีกว่าเดิมมากๆ
3. วัสดุดี การประกอบดี มีช่องบอกระยะเรียบร้อยหากต้องการถ่ายแมนวลโฟกัส

4. ราคาถูกมาก เมื่อเทียบกับคุณภาพที่ให้มา


ข้อเสีย

1. เบาไปหน่อยเมื่อประกบกับบอดี้ใหญ่ๆ โหวงๆโล่งๆ ไม่รู้สึกถึงเลนส์

2. ขอบม่วงมีมาให้พอสมควร อันนี้แล้วแต่คนถ่าย ว่าจะถ่ายอะไรที่เสี่ยงต่อขอบม่วงมากไหม บ่อยไหม คิดเอง



วันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

REVIWE NIKKOR AF-S 24-70mm f/2.8G ED Nikkor

วันนี้ผมจะมารีวิว NIKKOR  AF-S 24-70mm f/2.8G ED Nikkor  เขาเล่ากันว่าตัวนี้เป็น lens เทพ 1ใน 3ของ NIKONเลย จะเป็นอย่างไรมาลองดูครับ

ต้องบอกก่อนเลยว่าตัวนี้ผมใช้บ่อยที่สุดครับไปไหนมาไหนก็พกไปด้วยตลอด ผมรู้สึกว่ามันครอบคุม ดี 

1.วัสดุ
หนักมากครับ ถือทั่งวันอาจล้าเอาได้ แต่ถ้าคนใช้ชินแล้ว ก็สบายครับ แต่ถึงน้ำหนักจะเยอะ แต่คุณภาพที่ได้เกินคุมจริงๆครับ



2.การใช้งานต้องบอกเลยว่า ครอบคุมจริงๆครับ ระยะ 24 นี้ก็วายสวยมากครับ 70 ก็เทเล เลยผมว่ามันเป็นที่เจ๋งมากครับ 

D800 + 24-70 F2.8 : F2.8 S1/250
3.ความเบลอ
ตัวนี้ถือว่า เบลอได้โอเคครับ ให้เอฟมาตั่ง2.8 นี้เนาะ



4.ปัญหาขอบม่วงตัวนี้ แทบไม่เห็นเลยครับเพราะ ตัวนี้มันเคลือบNANO สุดยอดจริงๆ





5.ย้อนแสงถือว่าตัวนี้ทำได้ดีมากครับ ฟุ่งสวย และโฟกัสได้ไวอีกด้วย


6.วิกเนตต์ ตัวนี้น้อยมากเลยครับ

7.ความคม ต้องบอกเลยสุดๆจริงๆผมว่าถ้าไปเทียบกับค่ายอื่น สู้ตัวนี้ไม่ได้ครับจากประสบการณ์ที่ได้จับมา

8.สี ผมว่าตัวนี้ให้สีที่ถูกต้องตามจริงครับเพราะถูกเคลือบ NANO ทำให้สีสด และสวย


สรุป
ข้อดี
1.ตัวLENSสวยครับ หล่อเลย
2.วัสดุที่ใช้ดีมาก
3.คมได้ใจมาก

ข้อเสีย
1.หนัก
2.ราคาแพงไปหน่อยครับ


วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

REVIEW NIKKOR AF-S 85 mm F 1.8 G

สวัสดีครับ
วันนี้ผมจะมาReview NIKKOR AF-S 85 mm F 1.8 G ว่ามันคุ้มค่ากับการซื้อหรือไม่ ผมจะขอเน้นการใช้งาน และ ความคุ้มค่าและ ราคา


1.โครงสร้างและวัสดุ

lens ตัวนี้ส่วนใหญ่เป็นพาสติกส่วนใหญ่ครับ ผลิตจาก China ทำให้ Lens ตัวนี้มีน้ำหนักเบามาก ถ้าเอาไปใส่กับกล้องก็เหมือนเราถือ กล้องเปล่า  มันเบาจริงๆครับ ผมคอนเฟริม ถ้าลองใส่กับ Body D7000 น้ำหนัก และสมดุล ถือว่าเยี่ยมเลยครับ ใช้ถ่ายมือเดียวได้สบายๆเลย

ภาพนี้ D800 + 85 1.8 G :  F 2 S 1/500


2.การใช้งานในระยะ 85 มม.

เป็น Lens เหมาะกับ FX ถ้าถ่าย Portrait จับใส่กะ DX เข้าแล้วจะทำให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ระยะที่ได้127.5  ผมใส่กะD800 และได้ใช้ DX mode เพื่อเพิ่มทางยาวโฟกัส ทำให้สะดวกยิ่งขึ้น

ภาพนี้ D800 + 85 1.8 G : DX crop mode = 127.5 mm F 2.5 S 1/250

ช่วง 85 มม ระยะในการถ่ายของ FX นั้น ถ่ายถ่ายเต็มตัว ห่างจากฉากหลังประมาณ 5 เมตร จะทำให้ DOF สวย


3. ความเบลอของ F1.8
ถ้าถามถึงความเบลอ ตอบได้เลยว่าเบลอสวยครับ แต่ถ้าเอาไปเทียบกับ 85 F1.4  คงเทียบไม่ได้ ดูราคาก็ต่างกันลิป

ภาพนี้ใช้  D800 + 85 1.8 G : F 1.8 S 1/350

4.ปัญหาขอบม่วง
มีครับแต่มีไม่มากไม่น่าเกลียด ให้โปรแกรม แก้ไขก็ได้และครับ ถ้าอยากไม่อยากไปแก้ไขในคอม ก็หรี่รูรับแสงลง สัก 1 stop  ถ้าF 4ก็หลายแล้วครับ

5.ย้อนแสง แฟลร์
 มีเยอะเลยครับ

6. วิกเนตต์
มีครับ  เปิดที่ F1.8ก็จะมีเยอะสุดครับ แล้วค่อยๆหายไปเมื่อรูรับแสงแคบลงเลื่อยๆ ถ้าไม่ชอบขอบดำๆใช้F4ครับ

7. โบเก้
แบบน่าจะห่างจะกล้องประมาณ1เมตร น่าจะเป็นโบเก้ที่สวยที่สุดแล้วครับ

8.ความเร็วในการโฟกัส
การโฟกัสนั้นเร็วดีครับ ใช้ได้ดีกับD7000 กับD800  ถ้าใช้กับกล้องรุ่นเก่าๆก็จะช้าลงไปบ้างครับ



โฟกัสในที่แสงน้อยทำได้ดีครับ ขึ้นกับ BODYที่ใช้งานอยู่ด้วยครับ

9.ความคม
ผมต้องขอบอกเลยว่าผมจับครั่งแรกรู้สึกติดใจมาก เพราะตัวLensราคาไม่แพง แต่ให้ความคมระดับนี้ คุ้มมาก คมตั่งแต่ F1.8 ครับ



10. เรื่องสี
สีนี้ใครที่ชอบ ตัวเก่าหายห่วงครับสีสวยเหมือนเดิม เหมาะสำหรับ งาน Portrait มากครับ

สรุป
ข้อดี
1.เล็กเบา น้ำหนักน้อย สะดวกในการพกพา
2.คมเกิน ราคา ไม่ฟุ่ง แม้จะเปิดFกว้าง
3.โฟกัสได้รวดเร็ว
4.ราคาถูกมากๆ
ข้อเสีย
1.มีขอบม่วง  แฟลร์มีให้พอสมควร แต่ก็ยังไม่มาก
2.วัสดุเป็นพลาสติก น่าจะทนสู้ตัวเก่าไม่ได้


ความคุ้มค่า คุ้มราคา 10/10
ความเร็วในการโฟกัส 8/10
คุณภาพของชิ้นเลนส์ 7/10
วัสดุและการประกอบ 6/10
การจับถือและน้ำหนัก 8/10